บทความ

กันซึมดาดฟ้าและผนังอาคาร สำคัญอย่างไรในฤดูฝน?

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ปัญหาหนึ่งที่เจ้าของบ้านและอาคารหลายคนมักเจอคือ น้ำรั่วซึม ทั้งจากดาดฟ้าและผนังอาคาร ซึ่งอาจเริ่มต้นจากแค่รอยน้ำเล็ก ๆ แต่ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม ก็อาจลุกลามจนกลายเป็นความเสียหายใหญ่โตได้ กันซึมดาดฟ้า และ กันซึมผนังอาคาร จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นวิธีป้องกันปัญหาเหล่านี้อย่างตรงจุดและยั่งยืน

1. ฤดูฝน ศัตรูตัวฉกาจของโครงสร้างอาคาร

ฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ทำให้น้ำฝนสามารถซึมผ่านพื้นผิวที่ไม่ได้รับการปกป้องจาก ระบบกันซึม ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นดาดฟ้าที่มีรอยแตกร้าวเล็กน้อย หรือผนังที่เคยโดนแดดสลับฝนจนวัสดุเริ่มเสื่อมสภาพ หากไม่ได้ทำกันซึมตั้งแต่ต้น น้ำจะค่อย ๆ ซึมลงไปในชั้นโครงสร้าง ทำให้ เหล็กเสริมเป็นสนิม, ปูนร่อน, หรือเกิด เชื้อรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งอาคารและผู้อยู่อาศัย

2. ลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมในระยะยาว

การซ่อมน้ำรั่วหลังจากเกิดความเสียหายแล้ว มักมีต้นทุนสูง ทั้งในแง่ของวัสดุและแรงงาน บางครั้งอาจต้องทุบรื้อพื้นที่บางส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ในขณะที่การ กันซึมดาดฟ้าและผนังอาคารล่วงหน้า มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอาคารได้อีกหลายปี จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

3. ป้องกันเชื้อราและปัญหาสุขภาพ

ความชื้นที่ซึมเข้ามาภายในอาคาร ไม่เพียงส่งผลต่อวัสดุตกแต่งภายในเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งสะสมของ เชื้อรา, แบคทีเรีย, และกลิ่นอับ ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ การทำกันซึมอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันการสะสมของความชื้นเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. เพิ่มความมั่นคงและมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์

บ้านหรืออาคารที่ไม่มีปัญหาน้ำรั่วซึม จะมี โครงสร้างที่แข็งแรง, ดูใหม่ และน่าอยู่อาศัยมากกว่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าในการขายหรือให้เช่าในอนาคตได้อย่างชัดเจน ผู้ซื้อหรือผู้อยู่อาศัยย่อมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมที่แห้งและสะอาด

การกันซึมดาดฟ้าและผนังอาคารในฤดูฝน ไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันน้ำรั่วเท่านั้น แต่คือการดูแลรักษาอาคารทั้งในแง่โครงสร้าง สุขภาพ และมูลค่าทางทรัพย์สิน หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบกันซึมอย่าง Omygoods จะช่วยให้คุณวางแผนและป้องกันปัญหาได้ตรงจุดก่อนจะสายเกินไป